อาการของโรคเก๊าต์คืออาการปวดตามข้อ และเมื่อเป็นแล้วมักพบโรคอื่นร่วมด้วย หลายโรค จะมีอะไรบ้างนั้น ใครอยากทราบลองตามไปดูกันได้เลยค่ะ
– โรคอ้วน หรือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ
– โรคไขมันในเลือดสูง โดยจะพบมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงถึงร้อยละ 80 ของคนไข้โรคเก๊าต์
– โรคเบาหวาน เพราะพบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่มีระดับในน้ำตาลในเลือดสูงจะมีอาการปวดข้อร่วมด้วย
– ความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดแข็งผิดปกติ และโรคเกี่ยวระบบเลือดบางชนิด
– โรคมะเร็ง โรคต่อมน้ำเหลืองอักเสบ และการได้รับเคมีบำบัดก็ส่งผลให้เซลล์ถูกทำลาย ส่งผลให้มีกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น
– ผู้ป่วยที่ได้รับสารพิษบางชนิด โดยเฉพาะสารตะกั่ว
– โรคไตวายเรื้อรัง โรคไตส่งผลให้ระดับกรดยูริกสูง เนื่องจากร่างกายไม่สามารถขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะได้เหมือนในคนปกติ

ภาพจาก saintlouis.or.th
ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการโรคเก๊าต์
โรคเก๊าต์จะเกิดจากการที่ร่างกายได้รับกรดยูริคมากจนเกินไป และไม่สามารถขับออกทางปัสสาวะได้ ทำให้กรดไปรวมตัวเกาะอยู่ตามข้อต่อต่างๆ เช่น ข้อนิ้วเท้า, ข้อเท้า, หัวเข่า, ข้อนิ้วมือ, ข้อมือ และข้อศอก เป็นต้น เมื่อมีอาการแล้วผู้ป่วยจะรู้สึกปวดและทำให้ข้อเกิดการอักเสบตามมา ในช่วงแรกอาการจะเป็นๆ หายๆ
จากนั้นจะกลับมาเป็นแบบถาวร สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจาก การที่ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีกรดยูริกมากเกินไป เช่น เครื่องในสัตว์ปีก และยอดผักต่างๆ รวมไปถึงการรับประทานยาบางประเภทเป็นประจำ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งเสริมให้โรคกำเริบมากขึ้น เช่น การบีบนวด, การดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ การเสียน้ำ และการติดเชื้อบางชนิด เป็นต้น

ภาพจาก women.thaiza.com
– แนวทางการรักษาอาการของโรคเก๊าต์
จะมีทั้งแบบการยาปฏิชีวนะ และบางท่านคุณหมออาจให้รับประทานยาสมุนไพรร่วมด้วย เช่น ยาแก้อักเสบสำหรับระยะเฉียบพลัน จากนั้นแพทย์จึงจะพิจารณาให้ยาลดกรดยูริกต่อไป ผู้ป่วยอาจจะเลือกรับประทานสมุนไพร ร่วมด้วยเช่น ยาชงหญ้าหนวดแมว, ใบรางจืด, ใบยอ และใบเตย เป็นต้น
นอกจากการรักษาด้วยยาที่กล่าวมาแล้ว ผู้ป่วยควรดูแลตัวเองในเรื่องต่างๆ กันด้วย เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มีกรดยูริกน้อย ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงหรืออย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง
นอกจากนี้ให้หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด รวมไปถึง ชา กาแฟ และเมื่อมีอาการห้ามบีบนวดอย่างเด็ดขาด เพราะจะยิ่งทำให้ข้อเกิดอาการอักเสบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้วเมื่อพบว่ามีอาการป่วยควรรีบพบแพทย์ เพื่อหาแนวทางในการรักษาต่อไป
#รักสุขภาพ #กีฬา #ลดน้ำหนัก #การดูแลสุขภาพเบื้องต้น #วิธีดูแลสุขภาพ #โรคที่พบร่วมกับโรคเก๊าต์