เนื่องด้วยเทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง บวกกับตลาดออนไลน์ที่โตอย่างรวดเร็ว เราจึงได้เห็นหลายๆคนกระโจนเข้ามาสู่วงการนี้ทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ ต่างสร้างสรรค์ข้อมูลความรู้ คำแนะนำดีเยอะแยะให้ได้เลือกอ่านกัน ทั้งการดูแลตัวเอง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฟิตหุ่น แนะนำการวิ่ง โยคะ และอีกมากมาย
แต่มีสิ่งหนึ่งที่พักหลังเริ่มจะเห็นค่อนข้างบ่อย คือเรื่องเกี่ยวกับการรักษาการบาดเจ็บ การบริหารแก้อาการต่างๆ ซึ่งส่วนตัวเป็นนักกายภาพบำบัดที่ทำงานเรื่องรักษาการบาดเจ็บ จะเจอเคสบ่อยมากที่ไปทำตามท่าที่ส่งๆกันมาตามsocial แล้วมีการบาดเจ็บหนักขึ้น จึงอยากจะมาขอทำความเข้าใจและแชร์มุมมองจากผู้รักษาให้ลองคิดกันดู ในประเด็นของการบาดเจ็บ, คำแนะนำออนไลน์ และความรับผิดชอบต่อสังคม
การบาดเจ็บ
การดูแลสุขภาพร่างกายแบ่งออกเป็นมิติใหญ่ๆ 4 ด้านคือ ส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ในสองส่วนแรกนั้นเป็นช่วงที่ยังไม่มีการบาดเจ็บเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้สอนการออกกำลังกายชนิดไหนก็ตามก็คงผ่านการเรียนรู้มาว่าทำอย่างไรให้สามารถออกกำลังกายได้โดยไม่เจ็บ หรือการออกกำลังเพื่อป้องกันการบาดเจ็บต่างๆ (injury prevention)
แต่ถ้าเกิดมีการบาดเจ็บขึ้นมาแล้วล่ะ
จะเป็นบทบาทหลักของส่วนงานรักษาฟื้นฟู (หรือที่คนเรียกว่า “แก้อาการ”) ซึ่งแต่ละคนมีสาเหตุและความรุนแรงต่างกัน ในส่วนนี้จะเป็นหน้าที่หลักของบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีทักษะการตรวจร่างกาย หาสาเหตุ ประเมินความรุนแรงว่ามากน้อยแค่ไหน คัดกรองอาการร้ายแรงและให้การรักษาให้ดีขึ้น
ดังนั้นเมื่อมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นเราจะรู้ว่าเจ็บแบบนี้สามารถแก้ได้เองด้วยการบริหาร หรือควรหยุดพัก!! และให้การรักษาอย่างอื่นที่เหมาะสม อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ความปลอดภัยในการรักษาและความรับผิดชอบต่อคนไข้
ในการให้การรักษาอย่างใดอย่างนึงเราจะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ว่าทำแล้วจะไม่เป็นอันตราย เคยมีอาจารย์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ”ถึงรักษาไม่ดีขึ้น แต่อย่างน้อยเราก็จะไม่ทำให้อาการแย่ลง” เพราะแต่ละคนตอบสนองต่อการรักษาไม่เหมือนกัน จึงทำให้การรักษาแต่ละอย่างนั้นค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่างมากเพื่อให้ได้ผลดีที่สุดและเป็นลักษณะเฉพาะบุคคล
มาว่ากันต่อในประเด็น คำแนะนำออนไลน์
ในเมื่อการแข่งขันสูงขึ้น แต่ละคนก็ต้องพยายามสร้างตัวตนในหลายๆทาง การให้ความรู้และคำแนะนำออนไลน์ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นข้อมูลในกลุ่มการส่งเสริมและป้องกันนั้น ใครๆก็สามารถเขียนกันได้ เพราะหากออกกำลังกายอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็เป็นประโยชน์ช่วยส่งเสริมสุขภาพได้ทั้งนั้น
แต่หากคุณมีปัญหาการบาดเจ็บ แล้วกำลังมองหาข้อมูลประเภทที่ว่า “3ท่าบริหารแก้ปวดหลังร้าวลงขา” หรือ “ท่าบริหารแก้ปวดไหล่ ไหล่ติด”
การปวดหลังร้าวลงขาที่คุณเป็น..มีสาเหตุจากกล้ามเนื้อตึงเฉยๆหรือกระดูกสันหลังเคลื่อน
การปวดไหล่หรือไหล่ติดนั้น..เพราะเยื่อหุ้มข้ออักเสบ กล้ามเนื้อฉีก หรือกดทับเส้นประสาทบริเวณคอ
…คุณจะรู้ได้อย่างไร และคิดว่าท่าเหล่านั้นช่วยแก้ปัญหาได้ตรงกับสาเหตุของคุณจริงหรือ?
มันไม่มีหรอก “one size fit all“ ท่าบริหารนี้อาจจะได้ผลกับคนหนึ่งแต่อีกคนกลับทำแล้วแย่ลงก็ได้ เพราะแต่ละคนมีสาเหตุ,ความรุนแรงต่างกัน โปรดพิจารณาดีๆก่อนเลือกเชื่อหรือทำตาม
(หากอยากลองก็มีตัวชี้วัดง่ายๆคือ ถ้าทำแล้วเจ็บมากขึ้นก็อย่าไปทำ อย่าไปฝืน มันไม่เหมาะกับเรา)
ที่อยากสื่อคือ หากเกิดการบาดเจ็บขึ้นแล้ว..ทางที่ดีปรึกษาบุคลากรทางการแพทย์เถอะ เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาที่เหมาะสม จะได้หายและไม่เสียเวลา
หากเป็นการบาดเจ็บแบบที่มีอาการรุนแรง แล้วไปบริหาร”แก้อาการ” แบบที่ส่งต่อๆกันมาโดยที่ไม่รู้ โชคดีก็หาย..โชคร้ายก็พัง ร่างกายไม่ใช่หวย หากเลือกได้ก็อย่าลุ้นเลย ไม่คุ้มหรอก
สุดท้ายคือเรื่อง ความรับผิดชอบต่อสังคม
ในการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆออกสู่ social โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสุขภาพ ซึ่งเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่คน ควรอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง,มีพื้นความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องในเรื่องนั้นๆและอยู่ในกรอบบทบาทที่ตัวเองรับผิดชอบ
เช่น เพจอาหารก็ส่งเสริมความรู้ด้านอาหารที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ, เพจออกกำลังก็สร้างสรรค์วิธีการพัฒนาร่างกายให้เห็นผลเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น หรือให้ความรู้การป้องกันการบาดเจ็บ วิ่งจบแบบไม่เจ็บ อะไรทำนองนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่แต่ละคนถนัด, มีความรู้ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และสามารถตอบคำถามรวมถึงให้ข้อแนะนำแก่ผู้บริโภคได้อย่างถูกต้องชัดเจน
แต่หากเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพวกแก้อาการ, รักษาอาการปวดนู่นปวดนี่ ขอให้ลองทบทวนดูอีกครั้ง !!
คุณทราบหรือไม่….การบาดเจ็บแต่ละส่วนของร่างกาย มีสาเหตุจากหลายโครงสร้างมาก เช่นข้อต่อยึดติด กระดูกร้าว กระดูกเสื่อม กล้ามเนื้อฉีก เอ็นอักเสบ ฯลฯ
คุณทราบหรือไม่….ทุกอาการที่กล่าวมานั้น มีอาการแสดงออกที่เหมือนกันคือ..ปวด..แล้วคุณจะแยกได้อย่างไร?
คุณทราบหรือไม่….ว่าแต่ละการบาดเจ็บมีข้อห้าม,ข้อควรระวังอย่างไรในการปฏิบัติตัวเพื่อไม่ให้เป็นหนักมากขึ้น
โปรดอย่าใช้การบาดเจ็บของผู้คนเป็นโอกาสทางการค้า เพียงเพราะต้องการยอดติดตามหรือขายคอร์สออนไลน์เลย การแชร์บทความต่อๆกันมาโดยไม่ผ่านกระบวนการคิดวิเคราะห์,กลั่นกรองข้อมูลว่าถูกต้องหรือไม่ (อาจเพราะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นจริงๆ)
อาจเป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจที่ผิดพลาด สร้างความหวาดกลัวและวิตกกังวลว่าตัวเองผิดปกติ ต้องหาที่รักษา จนนำไปสู่ผลประโยชน์ทางการค้า ซึ่งจริงๆแล้วอาจจะไม่ได้เป็นอะไรมากก็ได้ หรือคนที่นำไปปฏิบัติตามนั้นเป็นคนที่มีอาการผิดปกติร้ายแรงซุกซ่อนอยู่ อาจนำไปสู่ความสูญเสียอย่างมหาศาลจนเปลี่ยนชีวิตคนคนนึงไปตลอดกาล
โปรดพิจารณาข้อมูลอย่างละเอียด ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลอย่างครอบคลุมครบถ้วน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง อยู่ในขอบข่ายที่สามารถปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างปลอดภัย
หากไม่มั่นใจในองค์ความรู้เกี่ยวกับการดูแลบาดเจ็บหรือไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนเผยแพร่สู่สาธารณชนได้…อย่าให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาหรือแก้อาการเลย
เพราะสุดท้ายถ้าบาดเจ็บขึ้นมา คนที่รักษาไม่ใช่คนทำ content หรอก แต่เป็นบุคลากรทางการแพทย์นี่ล่ะ…ด้วยความหวังดี
ขอฝากทิ้งท้าย..
ไม่มีใครเก่งไปทุกอย่างหรอก แต่ละวิชาชีพต่างมีจุดแข็งจุดอ่อนไม่เหมือนกัน แต่สามารถทำงานร่วมกันได้ เพียงทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด, เข้าใจและเคารพในบทบาทของกันและกัน, ช่วยเหลือเติมเต็มกัน เพื่อส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้แก่สังคม
#สาระก็มีน่าตาดีก็มีด้วย (โค้ชมาร์ค)
#สุขภาพ #การบาดเจ็บ #คำแนะนำออนไลน์ #ความรับผิดชอบต่อสังคม #gclub