คุณหมอ ยันเสียชีวิตขณะออกกำลังมีน้อย เตือนนักวิ่ง ต้องรู้ตัวเอง หากมี 2
อาการต้องหยุดทันที นายแพทย์อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือหมอแอร์ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ นักวิ่งมาราธอน และนักไตรกีฬาให้ความรู้การดูแลสุขภาพสำหรับนักวิ่ง หลังเกิดเหตุนักวิ่งเสียชีวิต 2 รายในรายการ วังขนายมาราธอน 2019 ความว่า เมื่อเกิดขึ้นอีก .. ก็ต้องเตือนอีกครับ “วิ่งแล้วเสียชีวิต”
1.การเสียชีวิตจากการออกกำลัง เกิดขึ้นได้ ตัวเลขประมาณ 1:80,000 ถึง1:200,000 ของนักกีฬาที่ลงแข่ง
2.ถ้าไม่มีโรคซ่อน ยากมากๆที่จะเสียชีวิตฉับพลันขณะออกกำลังกายแต่การออกกำลังกายอาจทำให้เสียชีวิตจากภาวะ อื่นๆ เช่น Heat stroke ,เกลือแร่ผิดปกติรุนแรง กล้ามเนื้อแตกสลาย ซึ่งไม่เสียชีวิตขณะแข่งทันที
3.การเสียชีวิตฉับพลันขณะออกกำลังมาจาก โรคหัวใจเป็นหลัก อายุเกิน35 ปี มักเป็นจากหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดฉับพลันต่ำกว่า 35 มักเกิดจาก กล้ามเนื้อหนาตัวปิดปกติ หรือโรคทางกลุ่มหัวใจเต้นผิดจังหวะบางชนิดที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม
4.ทำไมมักไปเกิดตอนแข่งขัน เพราะมีการเร่งในการทำความเร็วและความตื่นเต้น ทำให้ระบบ Sympathetic ทำงานมากขึ้น หัวใจเต้นเร็วขึ้นทำงานหนักขึ้น ร่วมกับ การเสียเหงื่อ เสียเกลือแร่ ความร้อนสิ่งเหล่านี้ทำให้โรคที่ซ่อนอยู่ ปะทุเกิดเรื่อง นำไปสู่หัวใจขาดเลือดฉับพลันหรือกระตุ้นให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง
5.นักกีฬา ควรปฏิบัติอย่างไร เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดซ้อมยังไงก็แข่งอย่างงั้น ไม่อัด ไม่ฝืน ไม่เร่ง จนเกินความสามารถร่างกายการปะทุของโรคโดยมากมาจากการ ออกกำลังกายใน Zone สูง ซึ่งกระตุ้นให้เกิด “หัวใจขาดเลือดฉับพลัน” ได้ง่ายขึ้น ควรกินน้ำและเกลือแร่ให้พอในการแข่งขันเกลือแร่ ไม่ควรอดน้ำ เพื่อทำเวลา การเสียน้ำ เกลือแร่ ที่มากกว่าปกติ เป็นตัวช่วยที่ทำให้เกิดโรคง่ายขึ้น

ฟังเสียงร่างกายตัวเองทุกครั้งที่แข่งขัน 2 อาการเตือนที่สำคัญ คือ
1.เจ็บ จุกแน่นหน้าอก หรือลิ้นปี่
2.เวียนหัวหน้ามืดจะเป็นลมถ้ามี 2 อาการนี้ ให้หยุดแข่งทันที และรีบบอกเพื่อนนักวิ่งบอกเจ้าหน้าที่สนาม เพื่อนำส่งโรงพยาบาลไม่นั่งพักแล้วรออาการดีขึ้น เพราะอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
Credit : นายแพทย์อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา
#ออกกำลัง #สุขภาพ #สุขภาพดี #ดุแลสุขภาพ #ผิวสวย #gclub จีคลับมือถือ